Learning log นอกห้องเรียน
(August 25th , 2015)
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เหมาะสมอย่างมากในการเรียน
ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางธุรกิจ การท่องเที่ยวหรือเหตุผลส่วนตัวอื่นๆ แต่การเรียนภาษานั้น ไม่ว่าจะภาษาใดก็ตาม ก็ต้องใช้ความขยัน
ความตั้งใจและไม่อายที่จะพูดหรือเขียนแม้ว่าอาจจะผิด
การฝึกภาษาอังกฤษผ่านการดูหนังก็เป็นอีกหนทางที่น่าสนใจไม่น้อยสามารถฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งยิ่งขึ้น
เพราะความสนุกสนานเพลิดเพลินจะช่วยให้เราจดจ่อกับการฝึกฝนได้นานขึ้น
หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า การดูหนังฝรั่งช่วยฝึกภาษาอังกฤษ
พอเอาเข้าจริงๆก็ดูไม่รู้เรื่องแถมดูจนขบยังไม่ได้อะไรเลย
เนื้อเรื่องบางทีก็ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำเพราะมัวแต่อ่านซับไตเติ้ล
เราจะไปดูหนังให้รู้เรื่องภาษาอังกฤษทุกคำ
ในการดูหนังเพื่อฝึกภาษานั้น
ไม่ควรดูรวดเดียวจบโดยไม่พักเลย
ควรปล่อยให้สมองได้มีช่วงเวลาพักบ้าง
เพราะเวลาดูหนังเพื่อฝึกภาษาเราต้องเพ่งสมาธิและคิดตามมากกว่าการดูปกติ
หากตะบี้ตะบันฝืนดูไปเรื่อยๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ลดลงโดยใช้เหตุ
กรณีที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกภาษา ยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญทักษะการฟังมากนัก
ควรเลือกหนังที่เคยดูมาแล้วรอบนึงจะดีกว่าค่ะ
เพราะคุณจะได้โฟกัสกับการฝึกภาษาได้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงเนื้อเรื่องมากนัก
และควรค่อยๆ ไต่ระดับโดยเริ่มจากเลือกหนังที่เข้าใจง่าย ใช้ภาษาไม่ซับซ้อน
แล้วค่อยทยอยเพิ่มระดับความยากมากขึ้นตามความชำนาญ
การเลือกหนังอย่างแรกควรเลือกดูเพื่อฝึกเฉพาะไปเลยว่าจะดูหนัง American
หรือหนัง British ถึงจะเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกัน
แต่สำเนียงค่อนข้างต่างกัน ในการเลือกฝึกควรเลือกเพียงอย่างเดียว
เพื่อไม่ให้สับสนในการออกเสียง (แนะนำ American เพราะหนังจะมีเยอะกว่า และภาษาค่อนข้างจะแพร่หลายกว่า)
ประเภทของหนังที่เลือก
ประเภทหนังที่เลือกก็มีส่วนในการช่วยฝึกเช่นกัน ควรจะเป็นหนังดราม่า หรือ
โรแมนติกจะดีที่สุด เพราะมีบทพูดค่อนข้างเยอะ หนังแอนนิเมชัน จริงๆเอามาฝึกได้
แต่ไม่แนะนำเพราะ เราจะไม่เห็นวิธีการออกเสียงและเสียงที่พูดออกมามักจะถูกดัดแปลงให้เข้ากับตัวการ์ตูน
ส่วนหนังแอคชัน บางครั้งศัพท์เทคนิคค่อนข้างจะเยอะ
การดูหนังพร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทยจะทำให้คุณสับสนมากกับคำศัพท์บางคำมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
บางทีซับไตเติ้ลภาษาไทยก็อาจจะแปลไม่ตรงกับภาษาอังกฤษเป๊ะๆ อีกอย่างหนึ่งคือ
พอเปิดซับไตเติ้ลแล้วคนดูส่วนใหญ่ก็จะเผลอตั้งใจอ่านแต่ซับไปโดยอัตโนมัติ
ทำให้ประสิทธิภาพในการฟังลดลง
แต่สำหรับมือใหม่หัดฟังที่ดูแบบไม่มีซับไตเติ้ลแล้วมึนตึ้บไม่ไหวจะเคลียร์
อนุญาตเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษเป็นตัวช่วยได้บ้าง แต่นั่นก็อาจจะทำให้คุณได้ฝึกทักษะการอ่านมากกว่าการฟัง และควรดูเรื่องนั้นหลายๆรอบ
เราก็จะยิ่งจดจำได้ดียิ่งขึ้น หากเลือกหนังที่มีบทสนทนาเป็นธรรมชาติ
สามารถจดจำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ก็จะดีไม่น้อย
และควรเลือกหนังที่ตงกับความสนใจของเรา จะช่วยให้มีแรงจูงใจในการฝึกยิ่งขึ้น
หากต้องการฟังให้เข้าใจทุกคำทุกประโยคแบบเพอร์เฟ็คท์
คุณจะไม่มีวันดูหนังเรื่องนั้นจบ
เพราะบางทีแม้แต่เจ้าของภาษาเองเขาก็ไม่ได้เข้าใจทุกคำเป๊ะๆ ขนาดนั้น
แค่พอใจจับความให้รู้เรื่องว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไรก็พอแล้ว
และลองพูดตามสิ่งที่ได้ยินไปด้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟังและยังได้ฝึกออกเสียงให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษาอีกด้วย
ซึ่งในขณะที่พูดตามนั้น คุณไม่จำเป็นต้องพยายามแปลความหมายของศัพท์ทุกคำ
ลองฝึกเดาศัพท์จากบริบทดูบ้าง และถ้าเจอคำศัพท์ที่น่าสนใจก็ค่อยจดเก็บไว้
แล้วนำมาหาความหมายทีหลัง
สมัยนี้เรามักชอบทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
นั่งทำงานไปเช็คโทรศัพท์มือถือ เล่นเฟซบุ๊ค เล่นไลน์ไปด้วย
แต่ในชั่วโมงของการฝึกภาษา ควรเอาสมาร์ทโฟนไปวางไว้ให้ห่างมือ
และตั้งใจโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เต็มที่ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1-2
ชั่วโมงต่อวัน แต่เน้นการฝึกต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมออย่าให้ขาด
ในช่วงแรกอาจจะรู้สึกว่าฟังไม่ค่อยทันบ้างก็อย่าเพิ่งท้อใจ
พยายามสะกดจิตตัวเองเข้าไว้ว่าเราต้องทำได้ เราต้องเก่งขึ้น
ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ ขอแค่ตั้งใจและอดทน
สักวันหนึ่งต้องประสบความสำเร็จแน่นอน
การที่เราเลือกหนังมาดูได้แล้ว
วิธีการดูหนังให้ได้ผลการฝึกนั้นควรดูอย่างน้อยสองรอบขึ้นไปรอบแรก ให้ดูโดยเปิด soundtrack พร้อมกับซับไตเติ้ลภาษาไทย
ไปก่อน เพื่อทำความเข้าใจกับเนื้อเรื่อง และอารมณ์ของหนัง รอบสอง ให้เปิด soundtrack + ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ
เพื่อดูว่าคำแต่ละคำเขาพูดกันยังไง รอบสุดท้าย ให้เปิด soundtrack ภาษาอังกฤษ ไม่มีซับไตเติ้ลภาษาอะไรทั้งนั้น การจดและจำทำให้เราเก่งมากยิ่งขึ้นในระหว่างที่ดูหนัง
ควรจำคำศัพท์จ่างๆที่น่าสนใจ หลังจากดูจบก็มาหาข้อมูลต่อ
ว่ามันมีความหมายอย่างไรและใช้อย่างไร
หากเราโหลดหนังมาดู
เพราะไม่ต้องการเสียตังหรือต้องการประหยัดเงิน พอเลือกสำเนียง เลือกแนวได้แล้ว
ทีนี้มากดเลือกหนังได้แล้วโหลดเลย
เป็นวิธีที่ไม่ควรทำเพราะหนังดีวีดีทำให้เราสามารถเลือกภาษาที่แม่นยำกว่า
ซับไตเติ้ลที่ได้ภาษาค่อนข้างมั่นใจกว่าที่เราโหลดมา
และได้สนับสนุนสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ด้วย
การดูหนังคือการฝึกภาษาอังกฤษที่ดีและไม่น่าเบื่อวิธีหนึ่ง
แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น
คุณจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตัวคุณ ถ้าคุณมั่นใจและฝึกฝน
ไม่มีทางที่คุณจะไม่เก่ง
ดูแรกๆอาจจะฟังไม่ออก ดูแล้วไม่เข้าใจก็อย่าเพิ่งท้อหรือถอดใจ
เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกเราต้องมีความมุ่งมานะในการฝึกฝน
หมั่นฝึกฝนบ่อยๆอย่างไม่ขาดหาย
สักวันหนึ่งเราจะต้องโหนังฝฝรั่งแบบไม่มีซับไตเติ้ลอย่างสบาย